แพท ณปภา งานเข้า!! หลังรีวิวสินค้าแบรนด์ดังแต่ อย.ปลอม ล่าสุดออกมาพูดความจริงแล้ว

จากกรณีที่กองบังคับการสืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สส.บช.น.)  พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สนธิกำลังกว่า 1...


จากกรณีที่กองบังคับการสืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สส.บช.น.)  พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สนธิกำลังกว่า 100 นาย บุกทลายเครื่องสำอาง อาหารเสริม ในเครือข่ายบริษัท เมจิสกิน จำกัด จำนวน 13 จุดทั่วประเทศ รวบผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 8 ราย  ประกอบ
ด้วย 1. นางวรรณภา พวงสน หัวหน้าทีม 2. นายกร พวงสน ทำหน้าที่ดูแลการเงิน 3. นายกสิทธิ์ วรชิงตัน 4. นายไมยสิทธิ์ สว่างธรรมรัตน์ ทำหน้าที่จัดโรงเรียนสอนรวย 5. นายพิร์นิธิ ติรณวัตถุภรณ์ ทำหน้าที่เป็นผู้วางกลยุทธ์ 6. นางสาวธนัญพรรธน์ บุญโญสิทธิ์ 7. นางสาวตรีชฎา ใจสบาย 8. นางสาวมธุรส แดงสัมฤทธิ์ ทำหน้าที่ผู้สั่งผลิตและเป็นเจ้าหน้าที่ผลิตยี่ห้อสินค้า


คืบหน้าล่าสุด พลตำรวจเอกวิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พลตำรวจตรีอังกูร คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว 3, พันตำรวจเอกนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 100 นาย เดินทางมาภายในหมู่บ้านซิตี้ วงแหวน-คู้บอน ถนนกาญจนาภิเษก แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นบ้านพักของ นางสาวตรีชฎา ใจสบาย หนึ่งในผู้ต้องหาตามหมายจับ
ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ประมาณ 70 ตารางวา มีรั้วรอบขอบชิด บริเวณหน้าบ้านพบรถยนต์เบนซ์ CLA 200 สีดำ ทะเบียน กล 1916 อุบลราชธานี ใกล้กันพบห้องกระจกมีลังบรรจุสินค้า ประมาณ 100 ลัง และภายในบ้านพบเงินสดประมาณ 19 ล้านบาท แหวนทองคำ จำนวน 53 วง รวมมูลค่าทั้งสิ้น 21 ล้านบาท โดยนางสาวตรีชฎา อ้างว่า ที่ต้องเก็บเงินสดมากมายขนาดนี้ เพื่อไว้ชำระให้ตัวแทนและค่าโฆษณาสินค้า

ด้าน พล.ต.อ.วิระชัย เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมาก มาร้องทุกข์ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวนจนทราบว่า มีแหล่งจำหน่ายเครื่องสำอางและยาลดน้ำหนักผิดกฎหมายหลายแห่ง จึงทำการตรวจค้นทั้ง 13 จุด พบว่ามีโรงงานผลิตเครื่องสำอางปลอม, ฉลากปลอม, ผลิตภัณฑ์ปลอม และส่วนผสมของครีมต่างๆ ซึ่งเป็นสารเคมีที่มีกลิ่นแรง จึงให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องนำสารเคมีทั้งหมดไปตรวจสอบว่าเป็นสารชนิดใด และตรวจยึดรถยนต์หรูยี่ห้อจากัวร์ สีดำ, รถโตโยต้าแคมรี สีดำ และรถเบนซ สีดำ ไว้

นอกจากนี้ยังพบตู้เซฟ จำนวน 2 ตู้ เมื่อเปิดดูพบเงินสดจำนวนเงิน 1 แสนบาท รวมทั้งนาฬิกาหรู มูลค่าประมาณ 1,100,000 บาท และสายรัดธนบัตรในสภาพถูกใช้งานแล้ว พล.ต.อ.วิระชัย ได้ฝากบอกว่า หากเงินอยู่ที่ใครหรือใครเป็นคนรับฝากเงิน ก็จะมีความผิดฐานฟอกเงิน มีโทษจำคุก 10 ปี เบื้องต้นได้ตรวจยึดทรัพย์สินทั้งหมด และได้สั่งให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ส่วนจำนวนเงินทั้งหมดนั้นจะส่งให้สำนักงานป้องกันและปราบปราม ดำเนินการต่อไป

ด้าน นางสาวตรีชฎา กล่าวเพียงสั้นๆว่า ถ้าตอบอะไรไปตอนนี้คงไม่มีประโยชน์ แค่คิดน้ำตาก็จะไหลแล้ว จึงอยากให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายจะดีกว่า

ภายหลังการสอบปากคำนานกว่า 4 ชั่วโมง พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า นางวรรณภา พวงสน ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาที่เดินทางเข้ามอบตัว ให้การรับสารภาพว่า เกี่ยวข้องกับบริษัทดังกล่าวจริง แต่อ้างว่าตนไม่รู้เรื่อง เพราะได้จ้างโรงงานผลิตสินค้าอีกต่อหนึ่ง และไม่ทราบถึงส่วนผสม ทั้งนี้จากการตรวจสอบ พบว่ามีโรงงานอีก 4-5 แห่ง ที่ถูกผู้ต้องหาพาดพิงถึง รวมถึงบุคคลอีกหลายคน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

นอกจากนี้ เมื่อตรวจสอบสินค้าในเครือบริษัทดังกล่าว พบว่ามีการผลิตสินค้าในราคาต้นทุนต่ำมาก แต่จำหน่ายในราคาที่สูงกว่าหลายเท่าตัว สร้างกำไรมหาศาล ทำให้มีประชาชนสนใจเป็นตัวแทนจำหน่ายจำนวนมาก นับเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท

ทั้งนี้ยังพบว่ามีบุคคลมีชื่อเสียง ทั้งดาราและเน็ตไอดอล รวม 16 คน เข้ามาเกี่ยวข้องกับการรีวิวสินค้าและใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว จึงต้องเชิญตัวมาให้ข้อมูล จากนั้นจะพิจารณาอีกครั้งว่า เข้าข่ายร่วมกระทำความผิดด้วยหรือไม่ โดยอยากฝากถึงผู้เสียหายในกรณีดังกล่าวว่า สามารถเข้าแจ้งความเพิ่มเติมได้ที่กองบังคับการปราบปรามทันที ซึ่งขณะนี้ได้ตั้งเป็นศูนย์ปฏิบัติการรับเรื่องร้องทุกข์แล้ว

สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมมีทั้งหมด 3 ราย คือ นายไมยสิทธิ์ สว่างธรรมรัตน์, นางสาวตรีชฎา ใจสบาย และ นายกสิทธิ์ วรชิงตัน และเข้ามอบตัวที่กองบังคับการปราบปราม อีก 3 ราย คือ นางวรรณภา พวงสน ซึ่งถือเป็นหัวหน้าทีม, นายพิร์นิธิ ติรณวัตถุภรณ์ ทำหน้าที่เป็นผู้วางกลยุทธ์ และนายกร พวงสน ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 ราย นั้น อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี

ด้าน สาว “แพท ณปภา” ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวผ่านทางโทรศัพท์มือถือว่า ตนยังไม่ทราบเรื่องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกดารา หรือ เน็ตไอดอล เข้าให้ปากคำเช่นเดียวกัน โดยระบุว่า จากที่ตนได้พูดคุยกับเจ้าของบริษัทฯ แจ้งแค่ว่าในผลิตภัณฑ์ที่ตนรีวิว น่าจะไม่ผิดกฎหมายเพราะมีการขออนุญาตจากองค์การอาหารและยา หรือ อย. อย่างถูกต้อง

อย่างไรก็ตาม แพท ณปภา บอกกับทีมข่าวว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลอกลวง หรือเป็นหุ้นส่วนใดๆทั้งสิ้น และหากเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกให้ไปสอบปากคำ ตนก็พร้อมที่จะให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่

ขอบคุณรายการ ทุบโต๊ะข่าว
Cr:https://www.siamnews.com

You Might Also Like

0 comments