ครูยอมรับแล้ว!! แปะป้ายค้างค่าเทอมจริง พร้อมเผยเหตุผลที่ต้องทำชัดๆ

จากกรณีผู้ใช้เพจเฟซบุ๊กชื่อ Red Skull Phatthalung ได้โพสต์ภาพและเรื่องราวของเด็กชายคนหนึ่งที่ต้องอับอายกับสิ่งที่ครูทำ โดยระบุข้อความนี้ว...


จากกรณีผู้ใช้เพจเฟซบุ๊กชื่อ Red Skull Phatthalung ได้โพสต์ภาพและเรื่องราวของเด็กชายคนหนึ่งที่ต้องอับอายกับสิ่งที่ครูทำ โดยระบุข้อความนี้ว่า

ครูจะรู้ไหมว่ามันฝากบาดแผลอะไรไว้ในจิตใจเด็กบ้าง สอบเป็นครูมาได้ไงวะ ไม่ถือสาไม่ได้หรอกคนับ แบบนี้ไม่น่าเป็นครูละ ค่าเทอมไม่จ่ายควรไปทวงกับพ่อแม่ ไม่ใช่ประจานเด็ก

โรงเรียน---------จ.เพชรบูรณ์
ป.ล.ตอนนี้มีคนจ่ายค่าเทอมให้เรียบร้อยละครับ

ค้างค่าเทอมทำลูกกูขนาดนี้กูจะไว้หน้ามึงทำไมลูกกูถูกประจานถูกล้อจากเพื่อนในห้องไม่มีใครเล่นด้วย"............"

คุณครูโรงเรียน------ลาออกไปซะไม่ต้องเป็นหรอกคุณครูส่วนพ่อของลูกไม่รับผิดชอบอะไรบอกว่าอย่าไปถือสาอะไรคุณครูเรยเดี๋ยวจะตามไปจ่ายเองบอกครูไว้แล้ว

-ึงยังเรียกตัวเองว่าคนอีกหรือนี่หรือพวกใจสัตว์พึ่งมาเห็นภาพลูกวันนี้ความไร้เดียงสาของเด็กวิ่งมาบอกว่าแม่ไม่มีใครคุยกับหนูเลยแม่ดูๆๆหนูถูกลงโทษ

โพสต์ดังกล่าว


ภาพข้อความบนเสื้อ
ต่อมาล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางไปสอบถาม นางอริศรา พัฒนากูล รองผู้อำนวยการ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล 1 ชี้แจงว่า กรณีดังกล่าวเกิดจาก เมื่อวันพุทธที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา โรงเรียนได้เรียกประชุมผู้ปกครอง และชี้แจงว่าโรงเรียนต้องทำประกันอุบัติเหตุกลุ่มให้กับนักเรียนทั้งหมด และจ้างครูพิเศษมาสอน จึงมีค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มที่ต้องชำระ โดยผู้ปกครองจะต้องจ่ายเพิ่ม ซึ่งเป็นภาคสมัครใจมิได้บังคับ หากใครไม่ประสงค์จะทำก็ได้ เป็นจำนวนเงิน 700 บาทต่อปี

นางอริศรา กล่าวต่อไปว่า ครูประจำชั้นได้ติดป้ายตามภาพที่ปรากฏในโลกโซเชียลจริง ตนทราบเช้าวันนี้ หลังมีคนส่งภาพมาให้ดู และเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์หนัก รู้สึกตกใจมาก และต้องรับโทรศัพท์หลายสาย ทั้งจากนายกเทศมนตรี และผู้ใหญ่อีกหลายฝ่าย จึงเรียกครูคนดังกล่าวเข้าพบและสอบถาม ทราบว่าได้ติดป้ายที่หน้าอกลูกศิษย์จริง

“ครูเขายอมรับว่าทำจริง แต่มีวัตถุประสงค์ให้ผู้ปกครองอ่านและแกะออกเท่านั้น ต้องการช่วยโรงเรียนเก็บเงินให้ครบ จะได้นำส่งบริษัทประกันเพื่อจะได้คุ้มครองเด็กนักเรียนทุกคน จึงตักเตือนว่าการกระทำดังกล่าวไม่เหมาะสม และแจ้งให้ครูทั้งโรงเรียนทราบว่าห้ามมิให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันนี้อีก เพราะส่งผลกระทบต่อจิตใจหลายฝ่ายทั้งเด็กและผู้ปกครอง”
อย่างไรก็ตาม ยังมีเด็กนักเรียนติดค้างเงินอีกกว่า 200 คน พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนผู้ปกครองทางโรงเรียนได้พยายามติดต่อแล้ว แต่หลังเป็นข่าวออกมาไม่สามารถติดต่อผู้ปกครองได้เพราะปิดการสื่อสารทุกอย่าง ส่วนครูคนดังกล่าวนั้นทราบว่าสามีซึ่งเป็นตำรวจจราจรของ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ มาพบและรับกลับบ้านไปแล้ว

คลิปตัวอย่าง


Cr:https://www.siamnews.com

You Might Also Like

0 comments