เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 22 เม.ย. 61 ร.ต.อ.ยุทธนา จันทร์สุริยา ร้อยเวรสภโพหัก อ.บางแพ จ.ราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุพลุระเบิดที่บ้านเลขที่ 53/2  หมู่ 4  ต.ดอนคา  อ.บางแพ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และมีไฟลุกไหม้ด้วย จึงได้ประสานรถน้ำดับเพลิงจากเทศบาลตำบลโพหัก ให้เข้าไปทำการฉีดน้ำดับเพลิง แล้วแจ้งให้ พ.ต.ท.ปราโมช  คล้ายทอง สวป.สภ.โพหัก ได้รับทราบก่อนเดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างราชบุรี   ในที่เกิดเหตุบริเวณข้างบ้านหลังดังกล่าว พบศพเป็นชายไม่สวมเสื้อผ้า นอนอยู่ข้างกอไผ่  ส่วนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังทำการฉีดน้ำดับเพลิงเข้าไปในกอไผ่  ซึ่งกำลังมีไฟลุกไหม้อยู่ ใช้เวลานานกว่า 20 นาที  จึงทำให้เพลิงสงบลงได้  แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องกันพื้นที่โดยรอบเป็นพื้นที่อันตราย ไม่ให้ใครเข้าไปใกล้เนื่องจากเกรงว่าจะชนวนระเบิดและวัตถุอันตายที่อาจจะยังไม่มีความปลอดภัยอยู่
จากการสอบถามนางอรดี แฮพฤกษ์ อายุ 53 ปี  ภรรยาของผู้ตายทราบว่า ผู้ตายคือนายเสถียร แฮพฤกษ์ อายุ 70 ปี มีอาชีพทำพลุระเบิดตามงานศพ และทำลูกระเบิดไล่นกส่งขาย โดยก่อนเกิดเหตุตนกำลังนั่งคุยอยู่กับนายสนอง กายอง อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นน้องชายอยู่ที่ข้างบ้านก็ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นและเกิดไฟลุกไหม้ในบริเวณที่สามีนั่งอยู่ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ขอรถน้ำดับเพลิง จนเมื่อเพลิงสงบก้เห็นว่าสามีของตนนั้นถูกแรงระเบิดจนเสื้อผ้าหลุดหายทั้งหมดและนอนเสียชีวิตที่ข้างกอไผ่  ส่วนสาเหตุนั้นไม่ทราบรู้แต่เพียงว่า สามีนั้นไปรับซื้อพลุมาจุดตามงานศพมานานกว่า 10 ปีแล้ว รวมทั้งทำพลุลูกเล็กๆสำหรับไล่นกซึ่งไม่อันตราย  แต่ในส่วนของการประกอบระเบิดนั้นไม่ทราบเลย เนื่องจากสามีไม่ให้เข้าไปยุ่งในบริเวณดังกล่าว
ด้านนายประจวบ  ติ่งต้อย  กำนัน ต.ดอนคา  ก็บอกว่าผู้ตายนั้นมีอาชีพไปจุดพลุตามงานศพ ซึ่งทำมานานแล้ว แต่การประกอบพลุระเบิดนั้นไม่ทราบว่าทำหรือไม่  หรือว่าถ้าทำก็ไม่ได้มีการมาแจ้งไว้  น่าจะเป็นการลักลอบผลิตมากกว่า ส่วนนายสนอง กายอง อายุ 51 ปี น้องเขยของผู้ตายก็บอกว่า ผู้ตายนั้นรับซื้อพลุมาจุดมานานกว่าสิบปีแล้ว  แต่การผลิตนั้นไม่ทราบเลยว่า ผลิตหรือประกอบเองเพราะไม่ได้เข้าไปยุ่งกับธุรกิจของเขาเพียงแต่เห็นว่ามีคนมาสั่งก็จะเอาไปจุดให้เท่านั้น
ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบบริเวณรอบบ้านที่เกิดเหตุพบเปลือกพลุลูกเล็กๆสำหรับไล่นกจำนวนมาก แต่ยังไม่ได้มีการประกอบให้เป็นลูกระเบิด และพบสายชนวน ดินระเบิด ปุ๋ยยูเรีย ซึ่งเรียกว่าอุปกรณ์เพิ่มความร้อน เพิ่มอีกจำนวนมาก จึงได้กันพื้นที่โดยรอบทั้งหมดให้เป็นพื้นที่อันตายห้ามบุคคลเข้าไป และให้ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทศบาลตำบลโพหักมาทำการฉีดน้ำโดยรอบอีกครั้ง เนื่องจากอากาศร้อน จึงเกรงว่าอุปกรณ์เหล่านี้อาจจะระเบิดขึ้นมาได้ พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่ EOD มาทำการเก็บกู้ และให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุของการเกิดระเบิดในครั้งนี้ต่อไปภัทรพงศ์ จ.ราชบุรี




Cr:https://www.siamnews.com